ปืนฝืดในลีก ควันหลงข้างหลังเกมหงส์แดงโชว์ฟอร์มโหดบุกไปถล่มคริสตัล

ปืนฝืดในลีก โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และก็ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่หมายถึง3 แนวรุกที่สร้างความสำเร็จให้กับ หงส์แดง

ปืนฝืดในลีก ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดู 2018-19 และก็แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-20 ทำให้มันไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะได้รับการยกย่องว่าเป็นเยี่ยมในแนวรุกที่น่ากลัวที่สุดชุดหนึ่งในช่วงปัจจุบัน

แต่ ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนก่อนหน้านี้ทั้งปวงทำผลงานได้น้อยกว่ามาตรฐาน พวกเขาทำแต้มในลีกไม่ได้เลยมา 3 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว ซึ่งผิดวิสัยของพวกเขาอย่างมาก จนกระทั่งทำให้แฟนบอล หงส์แดง เล็กน้อยเห็นว่าแนวรุกปัจจุบันนี้น่าห่วงกว่าเกมรับซะด้วยไป

เพราะฉะนั้น วันนี้พวกเราเลยจะมาเจาะผลงานการเล่นเกมรุกในลีก 3 นัดหมายที่ผ่าน มาของ ซาลาห์ รวมทั้ง ฟีร์มีโน่ กัน เพื่อมองว่าแต่ว่าละคนเล่นกันได้ในระดับไหน โดยพวกเราจะอ้างอิงข้อมูลที่ได้มาจาก fbref เว็บบันทึกสถิติการเล่นต่างๆเป็นหลัก ข่าวกีฬาลิเวอร์พูล

3 นัดหมายที่ผ่านมา ซาลาห์ มีจังหวะผ่านบอล ที่แปลงเป็นจังหวะสำคัญเพียงแค่ 2 ครั้งแค่นั้น โดยเกิดขึ้นในเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน แล้วก็ แมนฯ ยูไนเต็ด นัดหมายละ 1 ตรงกันข้ามกับ ที่ทำแบบงั้นได้ 5 ในช่วงเวลาที่ ฟีร์มีโน่ ส่งผลงานในด้านนี้ 4 ทีจากการลงเล่นในลีก 3 นัดหมายหลังสุด

นอกจากนี้ จากการผ่านบอลเข้าเป้าทั้งผอง 71 ครั้งใน 3 นัดหมายก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา มันก็มีเพียงแต่ 5 ครั้งที่การจ่ายบอลของ ซาลาห์ เป็นการผ่านบอลที่ดันเกมบุกขึ้นไปด้านหน้าได้อย่างต่ำ 5 หลา

ปืนฝืดในลีก ทำให้เปอร์เซ็นต์การจ่ายบอลที่เปลี่ยนเป็นการช่วยดันเกมบุกขึ้นหน้าอย่างต่ำ 5 หลาของเขาอยู่ที่ 7.04 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเทียบกับจังหวะผ่านบอลตรงเป้าทั้งหมดทั้งปวง ซึ่งต่ำที่สุดในกรุ๊ป 3 แนวรุกด้วย

5 หน เป็นจำนวนครั้งที่ ซาลาห์ สร้างช่องทางการยิงให้กับกลุ่มได้สำหรับการลงเล่นเกมลีก 3 นัดหมายที่ผ่านมา โดยเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เขาทำแบบงั้นได้ 3 ครั้ง โดยอีก 2 ครั้งเกิดขึ้นในนัดหมายปราชัย เซาธ์แฮมป์ตัน 0-1 ตอนที่เกมกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เขาทำอย่างงั้นไม่ได้เลย

โดยที่แท้เกมกับ “สาลิกาดง” ก็เป็นนัดหมายที่ 2 ต่อเนื่องกันที่เขาสร้างจังหวะยิงในลีกไม่ได้เลยด้วย เพราะว่าเกมเจ๊า เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ก่อนหน้านั้นเขาก็สร้างจังหวะยิงมิได้เลยเหมือนกัน

ช่วงเวลาที่ มีจังหวะการเล่นที่ทำ ให้เกิดการยิงทั้งหมด ทั้งปวง 8 ครั้ง โดยเกมที่เขาทำแบบนั้นได้มากที่สุด เป็นนัดหมายกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่ทำไป 4 คราว และก็ตามด้วยเกมแดงเดือด ที่ทำเป็น 3 ส่วนนัดหมายกับ นิวคาสเซิ่ล เขาทำเป็น 1 ครั้ง

ระหว่างที่ ฟีร์มีโน่ ยังสวมบทแผงหน้าจอมปั้นเพื่อนฝูงเจริญ เพราะเหตุว่าเขามีจังหวะการเล่นที่เปลี่ยนเป็นการผลิตช่องทางทำคะแนนได้ถึง 10 คราวในตอน 3 เกมก่อนหน้าที่ผ่านมา มี 2 ครั้งในเกมกับ นิวติดอยู่สเซิ่ล รวมทั้ง เซาธ์แฮมป์ตัน ต่อด้วย 6 ครั้งในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด

ในเกมลีก 3 นัดหมายหลังสุด ซาลาห์ ได้โอกาสลุ้นทำแต้มทั้งผอง 7 คราว แม้กระนั้นมีเพียงแค่ครั้งเดียวเพียงแค่นั้นที่ลูกยิงของเขาเป็นการยิงตรงกรอบ โดยเกิดขึ้นในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล แต่ก็ไม่ได้มีอะไรดีมากเกิน กว่ากันเท่าไร เพราะว่าเขาก็ยิงตรงกรอบเพียงแค่ครั้งเดียว จากช่องทางลุ้นทำคะแนนทั้งหมด 6 ครั้ง โดยการยิงตรง กรอบครั้งเดียวที่ว่าของ เกิดขึ้นในนัดหมายกับ เซาธ์แฮมป์ตัน

เวลาที่ ฟีร์มีโน่ มีจังหวะยิงตรงกรอบ 3 ครั้งจากการลุ้นทำแต้มทั้งสิ้น 11 ครั้ง ใน 3 เกมที่ผ่านมา ทำให้ถ้าเกิดเทียบเคียงเป็นเปอร์เซ็นต์การยิงตรงกรอบแล้วนั้นจำนวนของหัวหอกชาวบราซิเลียนก็จัดว่าเหมาะสมที่สุดที่ 27.27 เปอร์เซ็นต์

จอมบุกเซเนกัลของหงส์แดง ถูกจับภาพแสดง สีหน้าท่าทางชัดแจ้งไม่พอใจโดนสลับตัวออกเร็วแถมพร่ำบ่นยับเชื่อว่า ในเวลาที่พบร์เก้น คล็อปป์ การันตีมันเป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูปของนักฟุตบอลเกมจบก็จบแล้ว พร้อมชนหงส์แดง

ควันหลงข้างหลังเกมหงส์แดงโชว์ฟอร์มโหดบุกไปถล่มคริสตัล พาเลซ ถึงเซลเฮิร์สต์ พาร์ค 7-0 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 19 เดือนธันวาคม ก่อนหน้านี้

ปืนฝืดในลีก โดยมีใจความสำคัญร้อน จอมบุกตัวเก่ง “ลิเวอร์พูล” ออกอาการไม่ชอบใจโดนสลับตัวออกมาจาก สนามอย่างเร็ว เกมเมื่อคืนนี้วันเสาร์ ก่อนหน้าที่ผ่านมา

หงส์แดง ขึ้นนำเร็ว 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 3 จาก ทาคุมิ มินามิโนะ ซึ่งต่อไป พาเลซ ได้โอกาสตีเสมอหลายหน แต่เปลี่ยนเป็น “ลิเวอร์พูล” ที่มาได้สองประตูติดจาก ซาดิโอ นาที 35 รวมทั้ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ นาที 44 ทำให้จบครึ่งแรก “ลิเวอร์พูล” มีสกอร์นำห่าง 3-0

ตอนช่วงหลังกลุ่มแชมป์เก่ากลับมาเล่น แบบสบายๆรวมทั้งได้เพิ่มเติมถึง 4 ตุงจาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน นาทีที่ 52, ฟีร์มีโน่ นาทีที่ 68 และก็ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ลงสำรอง ทำสองประตูจบท้ายในนาทีที่ 81 และก็ 84 ทำให้ หงส์แดง รับประกันตำแหน่งผู้นำฝูงตอนสุดสัปดาห์นี้ ด้วยการมี 31 แต้ม จากการลงเล่น 14 นัดหมาย

ปืนฝืดในลีก เกมน่าจะจบด้วยความแฮปปี้กลับมีหลักสำคัญร้อนขึ้นมาเมื่อซาดิโอ มาเน่ ที่ยิงได้หนึ่งลูกในเกมนี้โดนสลับตัวออกในนาที 57 แล้วก็เป็นโมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ลงมาแทนก่อนตัวรุกอียิปต์เหมาสองขึ้นไปนำดาวซัลโวที่ 13 ประตูแล้วก็ทำหนึ่งแอสซิสต์ให้ ฟีร์มีโน่ ทำประตู