ขอแค่ท็อปโฟร์ มาเน่รับสภาพลิเวอร์พูลหมดลุ้นป้องกันแชมป์

ขอแค่ท็อปโฟร์

ขอแค่ท็อปโฟร์ ซาดิโอ มาเน่ ตัวรุก หงส์แดง ก้มตัวรับ กลุ่มของตัวเองหมดลุ้นแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้แล้ว

ขอแค่ท็อปโฟร์ ปีกคนเก่งของ หงส์แดง บอกว่า “ลิเวอร์พูล” หมดลุ้นที่จะคุ้มครองป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แล้ว ภายหลังที่ปัจจุบันนี้ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นหัวหน้าฝูงถึง 19 แต้ม

ก่อนที่จะฤดูกาลนี้จะประเดิมนั้นผู้คนจำนวน ไม่ใช้น้อยเห็นว่า หงส์แดง จะแข่งขันลุ้นแชมป์กับ แมนฯ ซิตี้ ได้อย่างใกล้เคียง ภายหลังฤดูก่อน กลุ่มของผู้จัดการทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ เล่นได้ยอดเยี่ยมจนถึงครองแชมป์ลีกไปครอบครองได้เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี แต่เปลี่ยนเป็นว่าตอนก่อนหน้าที่ผ่านมา หงส์แดง ทำผลงานได้ห่วยจนกระทั่งตอนนี้อยู่ในชั้น 6 ของตารางคะแนนเลย

ขอแค่ท็อปโฟร์

เปิดเผยว่า “จุดมุ่งหมายตั้งแต่ทีแรกของพวกเราเป็นการคว้าทั้งยังแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก, พรีเมียร์ลีก แล้วก็บอลถ้วยมาครอบครองให้ได้ แต่ว่าเวลานี้ผมสามารถบอกได้ว่าแชมป์ พรีเมียร์ลีก

มันหมดกำลังใจแล้ว มันยากเกิน ความจำเป็น แน่ๆว่าในหัวของ พวกเราน่ะมันมีความเชื่อมั่นในตนเอง อยู่เป็นประจำ พวกเราคิดอยู่เสมอว่า -ไม่เคยยอมแพ้- และก็พวกเราก็ไม่เคยยอมจริงๆแต่ว่าแน่ๆว่า แมนเชสเตอร์ (ซิตี้) เป็นกลุ่มที่ดีรวมทั้งกำลังทำผลงานได้ร้อนแรง” ข่าวกีฬาลิเวอร์พูล

“เป้าหมายหลักของพวกเราขณะนี้เป็นการเป็นท็อปโฟร์ให้ได้ แม้กระนั้นการคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองให้ได้ก็เป็นเป้าหมายหลักของพวกเราด้วยเหมือนกัน พวกเราทราบดีว่ามันจะไม่ใช่งานง่ายเพราะเหตุว่าพวกเราจำต้องเอาชนะบรรดากลุ่มชั้นยอดในทวีปยุโรปให้ได้ถ้าหวังที่จะเป็นแชมป์ แต่ว่าพวกเราก็มาตรงนี้เพื่อล้มกลุ่มพวกนั้นอยู่แล้ว ฉะนั้นมาทดลองพยายามคว้าแชมป์มาครองให้ได้กันดีกว่า”

ตัวรุกหงส์แดง รับเซอร์ไพรส์จริงๆที่มีคนไม่ใช่น้อยตั้งแง่วิภาควิจารณ์ อลีสซง เบ็คเกอร์ ภายหลังที่เขาทำผิดพลาดเพียงแค่ไม่จำนวนกี่ครั้ง กำหนดทุกคนรู้สึกแปลกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับ โกลชาวบราสิเลียน แม้กระนั้นลองนึกถึงว่าถ้าเกิดไม่มี “พ่อหมี” งานนี้ “ลิเวอร์พูล” จะได้แชมป์มากมายมาแต่งแต้มตู้โชว์ในแอนฟิลด์หรือไม่

ปีกจอมกระหน่ำประตูของ เห็นด้วยตนรู้สึกแปลกใจ มากมายๆกับเสียงวิภาควิจารณ์เกี่ยวกับ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้เฝ้าประตูมือ 1 ข้างหลังตอนก่อนหน้าที่ผ่านมาเจ้าตัวทำผิดพลาดกระทั่งส่งผลให้ สังกัดเดิมเสียหาย ผีลุ้นได้เลาตาโร่

ขอแค่ท็อปโฟร์

นายทวารชาวบราสิเลียน ทำผลงานได้น่าผิดหวังแมตช์ที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เนื่องมาจากเขาเตะบอลพลาดสองครั้งกระทั่งทำให้กลุ่มเสียประตู แล้วหลังจากนั้นก็มาทำผิดพลาดอีกรอบจากการสื่อสารไม่ดีกับ โอซาน คาบัค ในแมตช์แพ้ เลสเตอร์ สิตี้

อย่างไรก็ดี เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ยังคงเชื่อถือในตัวของ อลีสซง รวมทั้งให้เขาปฏิบัติหน้าที่มือ 1 ถัดไป ในช่วงเวลาที่ ถึงตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องฟอร์มของ โกลกลุ่มชาติบราซิล แล้วก็เจ้าตัวสารภาพว่างงเช่นเดียวกันที่มีผู้คนจำนวนมากตั้งปัญหาเกี่ยวกับฟอร์มของ อลีสซง

“บอกตามจริงบางเวลาผมก็แปลกใจ ในตอนที่มีหลายท่าน บอกเกี่ยวกับความบกพร่องของ อลีสซง แต่ว่าในขณะเดียวกันผมทราบดีว่านี่มันเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของกีฬา เมื่อผู้เฝ้าประตูที่เก่งที่สุดในโลกทำผิดพลาดหนึ่งหรือสองครั้ง แน่ๆว่านั่นเป็นอะไรที่แปลก แต่ว่ามันไม่ใช่แค่ตัวผม ทุกๆคนในกลุ่มด้วย”

“แต่มีกี่ครั้งละที่ อลีสซง เซฟประตูให้กับพวกเรา ? หากว่าไม่มีเขา บางทีพวกเราคงจะมิได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือโทรฟี้แชมป์ฯลฯ” อดีตกาลปีกความเร็วสูง “นักบุญ” เซาธ์แฮมป์ตัน กล่าวทิ้งท้าย

ตัวรุกเซเนกัลของหงส์แดง ถูกจับภาพแสดงสี หน้าท่าทางแจ่มชัดไม่พอใจโดนสลับตัวออกเร็วแถมพร่ำบ่นยับเชื่อว่า เวลาที่เจอร์เก้น คล็อปป์ รับรองมันเป็นเพียงแค่อารมณ์เลวทราม วูปของนักฟุตบอล เกมจบก็จบแล้ว

ขอแค่ท็อปโฟร์ ควันหลงข้างหลังเกมหงส์แดงโชว์ฟอร์ม ชั่วร้ายบุกไปกระหน่ำคริสตัล พาเลซ ถึงเซลเฮิร์สต์ พาร์ค 7-0 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 19 เดือนธันวาคม ก่อนหน้านี้ โดยมีหลักสำคัญร้อน จอมบุกตัวเก่ง ออกอาการไม่ชอบใจโดนสลับตัว ออกมาจากสนามอย่างเร็ว

เกมเมื่อคืนนี้วันเสาร์ ก่อนหน้าที่ ผ่านมา ขึ้นนำเร็ว 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 3 จาก ทาคุมิ ไม่นามิโนะ ซึ่งต่อไป พาเลซ ได้โอกาสตีเสมอ หลายทีกลับเปลี่ยนเป็น ที่มาได้สอง ประตูติดจาก นาที 35 และก็ โรกางร์โต้ ฟีร์มีโน่ นาที 44 ทำให้จบครึ่งแรก มีสกอร์นำห่าง 3-0

ตอนช่วงหลัง กลุ่มแชมป์เก่ากลับมาเล่นแบบสบายๆ รวมทั้งได้เพิ่มเติมถึง 4 ตุงจาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน นาทีที่ 52, ฟีร์มีโน่ นาทีที่ 68 รวมทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ลงสำรอง ทำสองประตูจบท้ายในนาทีที่ 81 แล้วก็ 84 ทำให้ หงส์แดง ยืนยันตำแหน่งหัวหน้าฝูงตอนสุดสัปดาห์นี้ ด้วยการมี 31 แต้ม จากการลงเล่น 14 นัดหมาย

เกมคงจะจบด้วย ความแฮปปี้ กลับมีหัวข้อร้อนขึ้นมาเมื่อซาดิโอ มาเน่ ที่ยิงได้หนึ่งลูกในเกมนี้โดนสลับตัว ออกในนาที 57 แล้วก็เป็นโมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ลงมาแทนก่อนตัวรุกอียิปต์เหมาสองขึ้นไปนำดาวซัลโวที่ 13 ประตูแล้วก็ทำหนึ่งแอสซิสต์ให้ ฟีร์มีโน่ ทำประตู

 

You may have missed