ขึ้นหัวหน้าฝูง ฟอร์สเบิร์กนำชัย-อิซัคเด่น สวีเดนเฉือนสโลวาเกียซิวครั้งแรกขึ้นหัวหน้าฝูงศึกยูโร

ขึ้นหัวหน้าฝูง

ขึ้นหัวหน้าฝูง เอมิล ฟอสเบิร์ก เป็นฮีโร่ซัดจุดลูกโทษเป็นประตูชัยช่วย สวีเดน เอาชนะ สโลวาเกีย 1-0 เปิดฉาก 3 แต้มแรกขยับขึ้นไปรั้งหัวหน้าฝูง

ขึ้นหัวหน้าฝูง เอมิล ฟอสเบิร์ก เป็นฮีโร่ซัดจุดลูกโทษเป็นประตูชัยช่วยสวีเดน เอาชนะ สโลวาเกีย1-0 เปิดฉาก 3 แต้มแรกขยับขึ้นไปรั้งหัวหน้าฝูงด้วยการมี 4 คะแนน ส่วนสโลวาเกีย หล่นมาอยู่ที่ 2 จากการมี 3 แต้ม

ก่อนมีคิวดวล สเปน นัดหมายท้ายที่สุด ในศึกยูโร 2020  ศึกบอลยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี ประจำวันศุกร์ที่ 18 เดือนมิถุนายน 2564 ที่สนาม เซนต์-ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดี้ยม ระหว่างสวีเดน เจอสโลวาเกีย

กองทัพลูกหนังไวกิ้งประเดิมคว้า 1 แต้มจากผลเสมอ สเปน 0-0 เกมนี้ที่ปรึกษา ยานเน่ อันเดอร์สสัน ไม่มีการเปลี่ยน 11 ตัวจริงจากเกมแรก ส่งตัวหลักลงพร้อมเอามาโดยคู่หัวหอกอย่าง อเล็กซานเดอร์ อิซัค ประสานงานกับ มาร์คุส เบิร์ก ในดินแดนหน้าอย่างเช่นเดิม

ฟากสโลวาเกีย เปิดฉากคว้า 3 แต้มด้วยการกลับล็อกเชือด ประเทศโปแลนด์ 2-1 เกมนี้ส่ง มาเร็ค ฮัมซิค กัปตันกลุ่มจอมเก๋าปั้นเกมรุกร่วมกับ โรเบิร์ต มัค คอยสนับสนุน ออนเดรย์ ดูด้า ที่ยืนตำแหน่งแบบ “ฟอลส์ ไนน์”

ครึ่งแรกสโลวาเกีย ได้ทักทายก่อน ในนาทีที่ 5 จากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย มาเร็ค ฮัมซิค เปิดมาเข้าหัวของ ยูราย คุชก้า ได้ขึ้นโหม่งบอลหลุดเสาออกไปนิดหนึ่ง เกมผ่าน 20 นาทีแม้ สวีเดนจะครอบครองบอลได้มากกว่าบางส่วน

แต่ว่ายังหาจังหวะเจาะแนวรับ สโลวาเกียเข้าไปลุ้นทประตูแทบจะไม่ได้เลย ด้านหลังครึ่งแรก นาทีที่ 43 สโลวาเกียได้สวนกลับมาบ้าง ออนเดรย์ ดูด้า ไหลบอลให้ มาเร็ค ฮัมซิค ปั่นด้วยขวาหน้าจุดโทษแม้กระนั้นบอลเหินข้ามคานไปไกล

ขึ้นหัวหน้าฝูง ต่อจากนั้นทั้งคู่ทีมยังทำอะไรกันไมได้ต่างข้างต่างหาช่องทางจบสกอร์กันได้น้อยมาก ทำให้จบครึ่งแรกยังเท่ากัน 0-0 ช่วงหลังเกมดำเนินมาถึง นาทีที่ 50 สโลวาเกียได้ลุ้นขึ้นนำก่อน ออนเดรย์ ดูด้า หาช่องกดด้วยขวาในจุดโทษบอลเหินข้ามคานออกไป ข่าวกีฬาลิเวอร์พูล

ขึ้นหัวหน้าฝูง

กองทัพลูกหนังไวกิ้งประเดิมคว้า 1 แต้มจากผลเสมอ สเปน0-0

ขึ้นหัวหน้าฝูง เกมของ สโลวาเกียดีมากกว่ากระจ่างแจ้งตั้งแต่เริ่มช่วงหลัง รวมทั้งเกือบจะขึ้นนำอีกรอบ ในนาทีที่ 58 จากจังหวะที่ ยูราย คุชก้า สอดมาโหม่งจากลูกตั้งสัมผัส โรบิน โอลเซ่น จะต้องออกแรงเซฟ แม้กระนั้นผู้ช่วยยกธงขาวเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

เกมเริ่มออกรสออกชาติมากเพิ่มขึ้น ต่อมานาทีเดียว สวีเดนเกือบขึ้นนำบ้างเมื่อ เซบาสเตียน ลาร์สสัน ได้เปิดจากกราบขวาให้ ลุดวิก เอากุสตินส์สัน ขึ้นโหม่งจ่อๆหน้าปากประตู มาร์ติน ดูบราฟก้า โชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกข้างหลังไปจวนเจียน

สวีเดนเริ่มได้ช่องสม่ำเสมอจากจังหวะสับไกซัดด้วยขวาหน้าจุดโทษของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค บอลไปไถลบล็อคของ มิลาน สคริเนียร์ เฉี่ยวเสาออกข้างหลังไปนิดหน่อย ในนาทีที่ 61 นาทีที่ 67 อเล็กซานเดอร์ อิซัค ได้ขึ้นโหม่งเน้นๆบอลเหินข้ามคานออกไปนิดหน่อยเพียงแค่นั้น

จนถึง นาทีที่ 75 สวีเดนที่รูปเกมกลับมาเหนือกว่ากระจ่างแจ้งมาได้จุดลูกโทษเมื่อ มาร์ติน ดูบราฟก้า ไปรวบใส่ โรบิน คไวซอน ผู้เล่นสำรองล้มในจุดโทษผู้ตัดสินชี้เป็นจุดลูกโทษโดยทันที ก่อนที่จะเป็น เอมิล ฟอร์สเบิร์ก รับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ สวีเดนขึ้นนำ สโลวาเกีย1-0

ในเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ประเทศสวีเดน เอาชนะ สโลวาเกีย1-0 คว้า 3 แต้มแรกขยับขึ้นไปรั้งหัวหน้าฝูงด้วยการมี 4 คะแนน ส่วน สโลวาเกียหล่นมารั้งลำดับที่สองด้วยการมี 3 คะแนน สำหรับโปรแกรมนัดหมายถัดไป สวีเดนจะเจอ โปแลนด์ ส่วน สโลวาเกียพบ สเปน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีมสวีเดน (4-4-2) : โรบิน โอลเซ่น – มิคาเอล ลุสติก, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, มาร์คุส ดาเนียลสัน, ลุดวิก เอากุสตินส์สัน – เซบาสเตียน ลาร์สสัน, อัลบิน เอ็คดาล (กุสตาฟ สเวนสัน น.88), คริสโตฟเฟอร์ โอลส์สัน (วิกตอร์ คลาสเซ่น น.64), เอมิล ฟอร์สเบิร์ก – อเล็กซานเดอร์ อิซัค, มาร์คุส เบิร์ก (โรบิน คไวซอน น.64)

ขึ้นหัวหน้าฝูง สโลวาเกีย (4-2-3-1) : มาร์ติน ดูบราฟก้า – ปีเตอร์ เพคาริค, ลูโบมีร์ ชัตก้า, มิลาน สคริเนียร์, โทมัส ฮูโบชาน (ดาวิด ฮานโก้ น.84) – ยูราย คุชก้า, พาทริก ฮโรซอฟสกี้ (มิเชล ดูริส น.84) – มาร์ติน คอสเซลนิก, มาเร็ค ฮัมซิค (ลาสโล่ เบเนส น.77), โรเบิร์ต มัค (วลาดิเมียร์ ไวส์ น.77) – ออนเดรย์ ดูด้า ลงซัดต่อ

You may have missed